หลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน การดื่มเครื่องดื่มชาหรือกาแฟ พร้อมด้วยคุกกี้หรือบิสกิตที่คุณโปรดปรานก็เป็นหนึ่งในความสุขและการผ่อนคลายอย่างแท้จริง แต่ในระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับรสชาติอยู่นั้น คุณเคยคิดไหมว่าความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างบิสกิตและคุกกี้นั้นคืออะไร โดยเจ้าขนมชนิดนี้เรามักพบเห็นเป็นรูปร่างแผ่นบางๆ แท้จริงแล้วยังมีความแตกต่างกันในแง่ของเนื้อสัมผัส ส่วนผสม และอื่นๆ และนี่เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่นำมาฝากกัน
คุกกี้คืออะไร?
คุกกี้มักใช้ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน คุกกี้เต็มไปด้วยรสชาติและใช้เวลาในการอบที่นานกว่า
เนื่องจากแป้งหนาและอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆซึ่งมีตั้งแต่ถั่ว ข้าวโอ๊ต ช็อกโกแลตชิป โดยทั่วไปจะมีเนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้นและเหนียวนุ่ม ชาวอเมริกันจึงนิยมเรียกขนมลักษณะนี้ว่าคุกกี้ และเป็นหนึ่งในขนมน่าทานที่นิยมอย่างมากในประเทศอเมริกา
บิสกิตคืออะไร?
บิสกิต มักใช้ในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ซึ่งมีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศสยุคกลาง เป็นคำภาษาละตินว่า bis (สองครั้ง) และ coquere (ปรุงสุก) แปลรวมกันว่า ‘ปรุงสุกสองครั้ง’ บิสกิตมักทำจากเนย แป้ง และน้ำตาลหรือเกลือ จะอัดแน่นด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบต่างๆเหมือนคุกกี้ เช่น ช็อกโกแลต, อัลมอนด์, ผลไม้แห้งต่างๆ ซึ่งภาพรวมหน้าตาของบิสกิตแล้วก็แทบไม่ต่างจากคุกกี้เลย
แต่ถ้าแยกย่อยในเรื่องของหน้าตาขนมนั้นอาจแบ่งความแตกต่างของบิสกิตและคุกกี้ได้ตามนี้
- บิสกิตต้องการแป้งแข็ง แต่คุกกี้นั้นต้องการแป้งที่นิ่มกว่า
- คุกกี้จะหนักกว่าบิสกิตเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บิสกิตจะฟูกว่าคุกกี้
- คุกกี้มีน้ำตาลมากกว่าบิสกิต
สรุปแล้วในแง่ของภาษาอังกฤษ เราอาจจะเห็นได้ว่าสามารถใช้ได้ทั้งสองคำ เพียงแต่จะนิยมใช้คำว่า ‘คุกกี้’ ในประเทศอเมริกา และจะนิยมใช้คำว่า ‘บิสกิต’ ในประเทศอังกฤษ หากนอกเหนือจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับจริตความชอบของผู้ใช้ภาษาอังกฤษแต่ละคน ว่านิยมใช้ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ (British English) หรือ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) มากกว่ากัน